บ้านนาเสียวเป็นหมู่บ้านที่ทำผ้าไหมมานานตั้งเเต่สมัยบรรบุรุษ เเละมีการสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
ซึ่งตอนนี้บ้านนาเสียวมีผลิตภัณฑ์ผ้าไหมหลายเเบบหลายลายให้เลือกสรรสำหรับผู้ที่สนสามารถหาซื้อกันได้ที่บ้านนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ โดยได้ราคาที่ไม่เเพง เเละเรามั่นใจได้ว่าเป็นผ้าไหมเเท้ร้อยเปอร์เซ็น เพราะชาวบ้านที่นี่เค้าจะทำเอง เลี้ยงไหมเอง ซึ่งขอเสนอตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดั่งต่อไปนี้
สนใจติดต่อได้ที่ bannaseaw120@gmail.com
เชิญร่วมเรียนรู้เเละช่วยกันอนุรักษ์ไว้ซึ่งวิถีชุมชนใ้ห้คงอยู่คู่บ้านนาเสียว นาวัง ให้ยั่งยืนสืบไป
วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การท่องเที่่ยวชมวิถีชีวิตในชนบท Rural Tourism/ Village Tourism
what is Rural Tourism or Village Tourism
บ้านนาเสียวก็เป็นอีกชุมชนหนึ่งที่พร้อมให้ นักท่องเที่ยวผู้ที่สนใจการท่องเที่ยววิถีชีวิตชนบท หากท่านเดินทางเข้ามาที่หมู่บ้านนี่ ข้าพเจ้ารับรองว่าท่านจะประทับใจในความมีน้ำใจของคนในหมู่บ้าน ผู้คนยิ้มเเย้มเเจ่มใส่ เป็นมิตร ซึ่งบอกได้ว่าในสังคมเมืองไม่มีความรู้สึกเหล่านี้ ท่านจะได้เห็นวีธีการทำนาของชาวบ้าน การดำนาว่าทำกันอย่างไร เเละที่สำคัญหากคูณอยากจะกระโดนลงไปในท้องนาล่ะก็ คุณลุงคุณป้าเค้าก็ยินดีเเละพร้อมที่จะสอนให้ท่านว่าควรเริ่มอย่างไร นอกจากนี้ชาวบ้านนา้เสียวยังมีอาชีพเสริมคือการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งที่นี่จะทำกันมาตั้งเเต่บรรพบุรุษ จึงไม่เเปลกว่าทุกคนสามารถอธิบายได้ถึงวิธีเเละขั้นตอนในการทำผ้าไหมได้ เเต่อย่างไรก็ตามคนรุ่นหลังๆที่ไม่ให้ความสนใจหรืออาจจะคิดว่าการทำ
so let find out what it is rural tourism is to focus on participating in a rural lifestyle. It can be a variant of ecotourism. Any village can be a tourist attraction, and many villagers are very hospitable. Agriculture is becoming highly mechanized and therefore requires less manual labor. This is causing economic pressure on some villages, leading to an exodus of young people to urban areas. (www.wikipedia.org)
การท่องเที่ยวในชุมชน (Community Based Tourism) หรือการท่องเที่ยวในชนบท (Rural Tourism )เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น จากแนวคิดของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Conservation Tourism) ที่มองเห็นว่าชุมชนหรือคนในท้องถิ่น เป็นเจ้าของทรัพยากรการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น น้ำตก ภูเขา วัฒนธรรมท้องถิ่น และวิถีชีวิต ชุมชนควรเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ และจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืนของชุมชน และส่งเสริมให้ท่องเที่ยวเป็นรายได้เสริมของชุมชน คือไม่ได้ทำท่องเที่ยวเป็นอาชีพหลัก นักท่องเที่ยวไม่มาคนในชุมชนก็ยังมีอาชีพ และทำมาหากินตามปกติ แต่ครั้นมีนักท่องเที่ยวหรือแขกมาเยี่ยมเยือน ชุมชนก็สามารถต้อนรับและให้บริการแก่แขกหรือนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งชุมชนจะมีแนวคิดว่านักท่องเที่ยวเหล่านั้นเป็นแขกผู้มาพักที่บ้าน (Be a guest, not just a Tourist) ในปัจจุบันการท่องเที่ยวในชุมชน ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น จากนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก (Main Stream) ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีรูปแบบการท่องเที่ยวที่พักสัมผัสวิถีชีวิตชนบทไทย(Home Stay & Village Visit) ถือเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่สำคัญ
village visit
ในโลกยุคเสรีไร้พรมแดนและวิถีการดำรงชีวิตของสังคมเมืองที่มีการแข่งขัน เร่งรีบ ทำให้ผู้คนแสวงหาวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และพอเพียงของสังคมแบบเกษตรและสังคมชนบท เป็นสังคมที่แตกต่างจากสังคมเมือง ซึ่งกิจกรรมท่องเที่ยว Home Stay & Village visit เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ และเข้าใจในวิถีชีวิตที่เรียบง่ายพอเพียง และขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น ขณะเดียวกันคนในชุมชนเองก็ได้ประโยชน์ในแง่การรักษา และดูแลทรัพยากรท้องถิ่นขนบธรรมเนียม ประเพณีท้องถิ่นและวิถีชีวิตดั้งเดิม กระตุ้นให้คนในท้องถิ่นรักถิ่นฐานบ้านเกิด รวมทั้งมีรายได้เสริม ซึ่งถือเป็นวิถีของการพัฒนาท้องถิ่นบนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและยั่งยืน สิ่งที่สำคัญที่สุดของการท่องเที่ยวในชุมชน คือความเข้มแข็งของชุมชนและสามารถคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชุมชน นั้น ๆอย่างยั่งยืน
ที่มา http://banraitantawan.net/article-group/5/
ผ้าไหมเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจ เเต่ความเป็นจริงเเล้วมันสิ่งที่ควรอนุรักษณ์ไว้ให้ยั่งยืนต่อไป
if you would to learn about a rural life bannaseaw is a good place for it. you can learn how to grow rice, how to make Thaisilk and so on and the villagers are always welcome you. :)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)